เมนู

14. พุทฺธวคฺโค

1. มารธีตรวตฺถุ

ยสฺส ชิตนฺติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา โพธิมณฺเฑ วิหรนฺโต มารธีตโร อารพฺภ กเถสิฯ เทสนํ ปน สาวตฺถิยํ สมุฏฺฐาเปตฺวา ปุน กุรุรฏฺเฐ มาคณฺฑิยพฺราหฺมณสฺส กเถสิฯ

กุรุรฏฺเฐ กิร มาคณฺฑิยพฺราหฺมณสฺส ธีตา มาคณฺฑิยาเยว นาม อโหสิ อุตฺตมรูปธราฯ ตํ ปตฺถยมานา อเนกพฺราหฺมณมหาสาลา เจว ขตฺติยมหาสาลา จ ‘‘ธีตรํ โน เทตู’’ติ มาคณฺฑิยสฺส ปหิณิํสุฯ โสปิ ‘‘น ตุมฺเห มยฺหํ ธีตุ อนุจฺฉวิกา’’ติ สพฺเพ ปฏิกฺขิปเตวฯ อเถกทิวสํ สตฺถา ปจฺจูสสมเย โลกํ โวโลเกนฺโต อตฺตโน ญาณชาลสฺส อนฺโต ปวิฏฺฐํ มาคณฺฑิยพฺราหฺมณํ ทิสฺวา ‘‘กิํ นุ โข ภวิสฺสตี’’ติ อุปธาเรนฺโต พฺราหฺมณสฺส จ พฺราหฺมณิยา จ ติณฺณํ มคฺคผลานํ อุปนิสฺสยํ อทฺทสฯ พฺราหฺมโณปิ พหิคาเม นิพทฺธํ อคฺคิํ ปริจรติฯ สตฺถา ปาโตว ปตฺตจีวรมาทาย ตํ ฐานํ อคมาสิฯ พฺราหฺมโณ สตฺถุ รูปสิริํ โอโลเกนฺโต ‘‘อิมสฺมิํ โลเก อิมินา สทิโส ปุริโส นาม นตฺถิ, อยํ มยฺหํ ธีตุ อนุจฺฉวิโก, อิมสฺส เม ธีตรํ ทสฺสามา’’ติ จินฺเตตฺวา สตฺถารํ อาห – ‘‘สมณ, มม เอกา ธีตา อตฺถิ, อหํ ตสฺสา อนุจฺฉวิกํ ปุริสํ อปสฺสนฺโต ตํ น กสฺสจิ อทาสิํ, ตฺวํ ปนสฺสา อนุจฺฉวิโก, อหํ เต ธีตรํ ปาทปริจาริกํ กตฺวา ทาตุกาโม, ยาว นํ อาเนมิ, ตาว อิเธว ติฏฺฐาหี’’ติฯ สตฺถา ตสฺส กถํ สุตฺวา เนว อภินนฺทิ, น ปฏิกฺโกสิฯ

พฺราหฺมโณปิ เคหํ คนฺตฺวา พฺราหฺมณิํ อาห – ‘‘โภติ, อชฺช เม ธีตุ อนุจฺฉวิโก ปุริโส ทิฏฺโฐ, ตสฺส นํ ทสฺสามา’’ติ ธีตรํ อลงฺการาเปตฺวา อาทาย พฺราหฺมณิยา สทฺธิํ ตํ ฐานํ อคมาสิฯ มหาชโนปิ กุตูหลชาโต นิกฺขมิฯ สตฺถา พฺราหฺมเณน วุตฺตฏฺฐาเน อฏฺฐตฺวา ตตฺถ ปทเจติยํ ทสฺเสตฺวา อญฺญสฺมิํ ฐาเน อฏฺฐาสิฯ พุทฺธานํ กิร ปทเจติยํ ‘‘อิทํ อสุโก นาม ปสฺสตู’’ติ อธิฏฺฐหิตฺวา อกฺกนฺตฏฺฐาเนเยว ปญฺญายติ, เสสฏฺฐาเน ตํ ปสฺสนฺโต นาม นตฺถิฯ

พฺราหฺมโณ อตฺตนา สทฺธิํ คจฺฉมานาย พฺราหฺมณิยา ‘‘กหํ โส’’ติ ปุฏฺโฐ ‘‘อิมสฺมิํ ฐาเน ติฏฺฐาหีติ ตํ อวจ’’นฺติ โอโลเกนฺโต ปทวลญฺชํ ทิสฺวา ‘‘อิทมสฺส ปท’’นฺติ ทสฺเสสิฯ สา ลกฺขณมนฺตกุสลตาย ‘‘น อิทํ, พฺราหฺมณ, กามโภคิโน ปท’’นฺติ วตฺวา พฺราหฺมเณน, ‘‘โภติ, ตฺวํ อุทกปาติมฺหิ สุสุมารํ ปสฺสสิ, มยา โส สมโณ ทิฏฺโฐ ‘ธีตรํ เต ทสฺสามี’ติ วุตฺโต, เตนาปิ อธิวาสิต’’นฺติ วุตฺเต, ‘‘พฺราหฺมณ, กิญฺจาปิ ตฺวํ เอวํ วเทสิ, อิทํ ปน นิกฺกิเลสสฺเสว ปท’’นฺติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

‘‘รตฺตสฺส หิ อุกฺกุฏิกํ ปทํ ภเว,

ทุฏฺฐสฺส โหติ สหสานุปีฬิตํ;

มูฬฺหสฺส โหติ อวกฑฺฒิตํ ปทํ,

วิวฏฺฏจฺฉทสฺส อิทมีทิสํ ปท’’นฺติฯ (วิสุทฺธิ. 1.45; อ. นิ. อฏฺฐ. 1.1.260-261; ธ. ป. อฏฺฐ. 1.สามาวตีวตฺถุ);

อถ นํ พฺราหฺมโณ, ‘‘โภติ, มา วิรวิ, ตุณฺหีภูตาว เอหี’’ติ คจฺฉนฺโต สตฺถารํ ทิสฺวา ‘‘อยํ โส ปุริโส’’ติ ตสฺสา ทสฺเสตฺวา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘สมณ, ธีตรํ เต ทสฺสามี’’ติ อาหฯ สตฺถา ‘‘น เม ตว ธีตาย อตฺโถ’’ติ อวตฺวา, ‘‘พฺราหฺมณ, เอกํ เต การณํ กเถสฺสามิ, สุณิสฺสสี’’ติ วตฺวา ‘‘กเถหิ, โภ สมณ, สุณิสฺสามี’’ติ วุตฺเต อภินิกฺขมนโต ปฏฺฐาย อตีตํ อาหริตฺวา ทสฺเสสิฯ

ตตฺรายํ สงฺเขปกถา – มหาสตฺโต รชฺชสิริํ ปหาย กณฺฏกํ อารุยฺห ฉนฺนสหาโย อภินิกฺขมนฺโต นครทฺวาเร ฐิเตน มาเรน ‘‘สิทฺธตฺถ, นิวตฺต, อิโต เต สตฺตเม ทิวเส จกฺกรตนํ ปาตุภวิสฺสตี’’ติ วุตฺเต, ‘‘อหเมตํ, มาร, ชานามิ, น เม เตนตฺโถ’’ติ อาหฯ อถ กิมตฺถาย นิกฺขมสีติ? สพฺพญฺญุตญฺญาณตฺถายาติฯ ‘‘เตน หิ สเจ อชฺชโต ปฏฺฐาย กามวิตกฺกาทีนํ เอกมฺปิ วิตกฺกํ วิตกฺเกสฺสสิ, ชานิสฺสามิ เต กตฺตพฺพ’’นฺติ อาหฯ โส ตโต ปฏฺฐาย โอตาราเปกฺโข สตฺต วสฺสานิ มหาสตฺตํ อนุพนฺธิฯ

สตฺถาปิ ฉพฺพสฺสานิ ทุกฺกรการิกํ จริตฺวา ปจฺจตฺตปุริสการํ นิสฺสาย โพธิมูเล สพฺพญฺญุตญฺญาณํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา วิมุตฺติสุขํ ปฏิสํเวทยมาโน ปญฺจมสตฺตาเห อชปาลนิคฺโรธมูเล นิสีทิฯ

ตสฺมิํ สมเย มาโร ‘‘อหํ เอตฺตกํ กาลํ อนุพนฺธิตฺวา โอตาราเปกฺโขปิ อิมสฺส กิญฺจิ ขลิตํ นาทฺทสํ, อติกฺกนฺโต อิทานิ เอส มม วิสย’’นฺติ โทมนสฺสปฺปตฺโต มหามคฺเค นิสีทิฯ อถสฺส ตณฺหา อรตี รคาติ อิมา ติสฺโส ธีตโร ‘‘ปิตา โน น ปญฺญายติ, กหํ นุ โข เอตรหี’’ติ โอโลกยมานา ตํ ตถา นิสินฺนํ ทิสฺวา อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘กสฺมา , ตาต, ทุกฺขี ทุมฺมโนสี’’ติ ปุจฺฉิํสุฯ โส ตาสํ ตมตฺถํ อาโรเจสิฯ อถ นํ ตา อาหํสุ – ‘‘ตาต, มา จินฺตยิ, มยํ ตํ อตฺตโน วเส กตฺวา อาเนสฺสามา’’ติฯ ‘‘น สกฺกา อมฺมา, เอส เกนจิ วเส กาตุนฺติฯ ‘‘ตาต, มยํ อิตฺถิโย นาม อิทาเนว นํ ราคปาสาทีหิ พนฺธิตฺวา อาเนสฺสาม, ตุมฺเห มา จินฺตยิตฺถา’’ติ สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ปาเท เต, สมณ, ปริจาเรมา’’ติ อาหํสุฯ สตฺถา เนว ตาสํ วจนํ มนสากาสิ, น อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา โอโลเกสิฯ

ปุน มารธีตโร ‘‘อุจฺจาวจา โข ปุริสานํ อธิปฺปายา, เกสญฺจิ กุมาริกาสุ เปมํ โหติ, เกสญฺจิ ปฐมวเย ฐิตาสุ, เกสญฺจิ มชฺฌิมวเย ฐิตาสุ, เกสญฺจิ ปจฺฉิมวเย ฐิตาสุ, นานปฺปกาเรหิ ตํ ปโลเภสฺสามา’’ติ เอเกกา กุมาริกวณฺณาทิวเสน สตํ สตํ อตฺตภาเว อภินิมฺมินิตฺวา กุมาริโย, อวิชาตา, สกิํ วิชาตา, ทุวิชาตา, มชฺฌิมิตฺถิโย, มหลฺลกิตฺถิโย จ หุตฺวา ฉกฺขตฺตุํ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ปาเท เต, สมณ, ปริจาเรมา’’ติ อาหํสุฯ ตมฺปิ ภควา น มนสากาสิ ยถา ตํ อนุตฺตเร อุปธิสงฺขเย วิมุตฺโตติฯ อถ สตฺถา เอตฺตเกนปิ ตา อนุคจฺฉนฺติโย ‘‘อเปถ, กิํ ทิสฺวา เอวํ วายมถ, เอวรูปํ นาม วีตราคานํ ปุรโต กาตุํ น วฏฺฏติฯ ตถาคตสฺส ปน ราคาทโย ปหีนาฯ เกน ตํ การเณน อตฺตโน วสํ เนสฺสถา’’ติ วตฺวา อิมา คาถา อภาสิ –

[179]

‘‘ยสฺส ชิตํ นาวชียติ,

ชิตํ ยสฺส โนยาติ โกจิ โลเก;

ตํ พุทฺธมนนฺตโคจรํ,

อปทํ เกน ปเทน เนสฺสถฯ

[180]

‘‘ยสฺส ชาลินี วิสตฺติกา,

ตณฺหา นตฺถิ กุหิญฺจิ เนตเว;

ตํ พุทฺธมนนฺตโคจรํ,

อปทํ เกน ปเทน เนสฺสถา’’ติฯ

ตตฺถ ยสฺส ชิตํ นาวชียตีติ ยสฺส สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เตน เตน มคฺเคน ชิตํ ราคาทิกิเลสชาตํ ปุน อสมุทาจรณโต นาวชียติ, ทุชฺชิตํ นาม น โหติฯ โนยาตีติ น อุยฺยาติ, ยสฺส ชิตํ กิเลสชาตํ ราคาทีสุ โกจิ เอโก กิเลโสปิ โลเก ปจฺฉโต วตฺตี นาม น โหติ, นานุพนฺธตีติ อตฺโถฯ อนนฺตโคจรนฺติ อนนฺตารมฺมณสฺส สพฺพญฺญุตญฺญาณสฺส วเสน อปริยนฺต โคจรํฯ เกน ปเทนาติ ยสฺส หิ ราคปทาทีสุ เอกปทมฺปิ อตฺถิ, ตํ ตุมฺเห เตน ปเทน เนสฺสถฯ พุทฺธสฺส ปน เอกปทมฺปิ นตฺถิ, ตํ อปทํ พุทฺธํ ตุมฺเห เกน ปเทน เนสฺสถฯ

ทุติยคาถาย ตณฺหา นาเมสา สํสิพฺพิตปริโยนนฺธนฏฺเฐน ชาลมสฺสา อตฺถีติปิ ชาลการิกาติปิ ชาลูปมาติปิ ชาลินีฯ รูปาทีสุ อารมฺมเณสุ วิสตฺตตาย วิสตฺตมนตาย วิสาหรตาย วิสปุปฺผตาย วิสผลตาย วิสปริโภคตาย วิสตฺติกาฯ สา เอวรูปา ตณฺหา ยสฺส กุหิญฺจิ ภเว เนตุํ นตฺถิ, ตํ ตุมฺเห อปทํ พุทฺธํ เกน ปเทน เนสฺสถาติ อตฺโถฯ

เทสนาวสาเน พหูนํ เทวตานํ ธมฺมาภิสมโย อโหสิฯ มารธีตโรปิ ตตฺเถว อนฺตรธายิํสุฯ

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา, ‘‘มาคณฺฑิย, อหํ ปุพฺเพ อิมา ติสฺโส มารธีตโร อทฺทสํ เสมฺหาทีหิ อปลิพุทฺเธน สุวณฺณกฺขนฺธสทิเสน อตฺตภาเวน สมนฺนาคตา, ตทาปิ เมถุนสฺมิํ ฉนฺโท นาโหสิเยวฯ ตว ธีตุ สรีรํ ทฺวตฺติํสาการกุณปปริปูรํ พหิวิจิตฺโต วิย อสุจิฆโฏฯ สเจ หิ มม ปาโท อสุจิมกฺขิโต ภเวยฺย, อยญฺจ อุมฺมารฏฺฐาเน ติฏฺเฐยฺย, ตถาปิสฺสา สรีเร อหํ ปาเท น ผุเสยฺย’’นฺติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

‘‘ทิสฺวาน ตณฺหํ อรติํ รคญฺจ,

นาโหสิ ฉนฺโท อปิ เมถุนสฺมิํ;

กิเมวิทํ มุตฺตกรีสปุณฺณํ,

ปาทาปิ นํ สมฺผุสิตุํ น อิจฺเฉ’’ติฯ (สุ. นิ. 841; มหานิ. 70);

เทสนาวสาเน อุโภปิ ชยมฺปติกา อนาคามิผเล ปติฏฺฐหิํสูติฯ

มารธีตรวตฺถุ ปฐมํฯ

2. เทโวโรหณวตฺถุ

เย ฌานปสุตา ธีราติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา สงฺกสฺสนครทฺวาเร พหู เทวมนุสฺเส อารพฺภ กเถสิฯ เทสนา ปน ราชคเห สมุฏฺฐิตาฯ

เอกสฺมิญฺหิ สมเย ราชคหเสฏฺฐิ ปริสฺสยโมจนตฺถญฺเจว ปมาเทน คลิตานํ อาภรณาทีนํ รกฺขณตฺถญฺจ ชาลกรณฺฑกํ ปริกฺขิปาเปตฺวา คงฺคาย อุทกกีฬํ กีฬิฯ อเถโก รตฺตจนฺทนรุกฺโข คงฺคาย อุปริตีเร ชาโต คงฺโคทเกน โธตมูโล ปติตฺวา ตตฺถ ตตฺถ ปาสาเณสุ สํภชฺชมาโน วิปฺปกิริฯ ตโต เอกา ฆฏปฺปมาณา ฆฏิกา ปาสาเณหิ ฆํสิยมานา อุทกอูมีหิ โปถิยมานา มฏฺฐา หุตฺวา อนุปุพฺเพน วุยฺหมานา เสวาลปริโยนทฺธา อาคนฺตฺวา ตสฺส ชาเล ลคฺคิฯ เสฏฺฐิ ‘‘กิเมต’’นฺติ วตฺวา ‘‘รุกฺขฆฏิกา’’ติ สุตฺวา ตํ อาหราเปตฺวา ‘‘กิํ นาเมต’’นฺติ อุปธารณตฺถํ วาสิกณฺเณน ตจฺฉาเปสิฯ ตาวเทว อลตฺตกวณฺณํ รตฺตจนฺทนํ ปญฺญายิฯ เสฏฺฐิ ปน เนว สมฺมาทิฏฺฐิ น มิจฺฉาทิฏฺฐิ, มชฺฌตฺตธาตุโกฯ โส จินฺเตสิ – ‘‘มยฺหํ เคเห รตฺตจนฺทนํ พหุ, กิํ นุ โข อิมินา กริสฺสามี’’ติฯ อถสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อิมสฺมิํ โลเก ‘มยํ อรหนฺโต มยํ อรหนฺโต’ติ วตฺตาโร พหู, อหํ เอกํ อรหนฺตมฺปิ น ปสฺสามิฯ เคเห ภมํ โยเชตฺวา ปตฺตํ ลิขาเปตฺวา สิกฺกาย ฐเปตฺวา เวฬุปรมฺปราย สฏฺฐิหตฺถมตฺเต อากาเส โอลมฺพาเปตฺวา ‘สเจ อรหา อตฺถิ, อิมํ อากาเสนาคนฺตฺวา คณฺหาตู’ติ วกฺขามิฯ โย ตํ คเหสฺสติ, ตํ สปุตฺตทาโร สรณํ คมิสฺสามี’’ติฯ โส จินฺติตนิยาเมเนว ปตฺตํ ลิขาเปตฺวา เวฬุปรมฺปราย อุสฺสาเปตฺวา ‘‘โย อิมสฺมิํ โลเก อรหา, โส อากาเสนาคนฺตฺวา อิมํ ปตฺตํ คณฺหาตู’’ติ อาหฯ